เกาหลี มากี่ทีก็ไม่มีเบื่อ
Chapter 68/3: Endless Fun in Korea
มาถึงตอนสุดท้ายของทริปเกาหลีกันแล้ว หลังจากผจญความหนาว -10 มาจาก Blog ที่แล้ว เริ่มมีความแก่กล้าในการรับมือกับลมหนาวได้ดีขึ้นแล้ว ไปลุยเที่ยวกันต่อกับ 2 วันที่เหลือเลย
เริ่มจากที่แรก Mangwon Market หรือ ตลาดมังวอนกันก่อนเลย วันนี้ออกจากบ้านเกือบเที่ยงเพราะตั้งใจจะไปหามื้อเที่ยงกินที่ตลาดเลย
Mangwon Market เป็นตลาดพื้นเมืองเก่าแก่ อยู่ไม่ไกลกับฮงแดที่เราพักเท่าไหร่ เดินประมาณ 20 นาทีเอง
ของที่ขายในตลาดมีทั้งของสดของแห้ง ขนมท้องถิ่นของเกาหลี และก็บรรดาสตรีทฟู้ดทั้งหลายที่เรารู้จักมั่งไม่รู้จักมั่งเต็มไปหมด
ดูน่ากินทั้งนั้นเลย อารมณ์หิวซินะ 😋
เจ้าขนมเหรียญอันนี้จริงๆ อยากชิมนะ แต่ดูท่าจะใช้เวลาทำนาน คนก็เข้าคิวกันเยอะเลยไปกินไก่ทอดร้านข้างๆ ก็ได้
อืม เอาจริงไก่ทอดแบบนี้ไม่โดนเท่าไหร่เพราะมันไม่ร้อนแล้ว คุณป้าคนขายไม่ได้ทอดใหม่ๆ มันก็เลยชืดๆ แข็งๆ ไปหน่อย
เท่าที่โฉบๆ ดู น่ากินหลายร้านเลย เกือบจะซื้อมาชิมละ แต่เราตั้งใจจะมาหาอะไรร้อนๆ กินมากกว่า ก็เลยได้มาเป็นร้านนี้
เค้าให้ดูเมนูแล้วไปสั่งที่เครื่องด้านหน้า ก็ดีนะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องของการสื่อสารด้วย เพราะเจ้าของร้านก็พูดอังกฤษไม่ค่อยได้ จะได้ไม่ต้องสั่งผิดสั่งถูก กดสั่งและจ่ายเงิน จากนั้นก็รอพอเค้าทำเสร็จก็เดินไปรับเองที่เคาน์เตอร์ และพอกินเสร็จก็เก็บจานชามคืนเค้าด้วย
ที่สั่งไปเป็นประมาณนี้ ไม่รู้เป็นอะไรมั่ง จิ้มๆ ที่อยากกิน เส้นบะหมี่ของที่นี่จะทำจากบัควีท (Buckwheat) ที่คนเกาหลีนิยมกินกัน มันจะหนึบๆ หน่อย อร่อยดี
อิ่มแล้วก็ออกไปเดินเล่นต่อที่ Eunpyeong Hanok Village หรือ หมู่บ้านอึนพยองฮันอก ปีก่อนเราไปเที่ยวหมู่บ้าน Bukchon Hanok Village (บุกชนฮันอก) มาแล้ว ปีนี้เลยเปลี่ยนเป็นที่นี่มั่ง
จากในเมืองต้องนั่งรถเมล์ออกมาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ รถไฟใต้ดินมาไม่ถึงค่ะ
หมู่บ้านอึนพยองฮันอก อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติ Bukhansan National Park (บุกฮันซาน) เป็นหมู่บ้านเกาหลีโบราณที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Bukhansan (พุคันซาน) เขตอึนพยอง กรุงโซล
โดยปกติแล้วหมู่บ้านเกาหลีโบราณจะเป็นหมู่บ้านที่สร้างมานานแล้ว และได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมแบบหมู่บ้านบุกชนฮันอก แต่หมู่บ้านอึนพยองฮันอกนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดเมื่อปี ค.ศ. 2012 โดย Seoul Housing and Urban Corporation ที่ต้องการสร้างหมู่บ้านเกาหลีโบราณในเขตอึนพยอง เพื่อใช้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปในตัว
เราสามารถเดินเล่นในหมู่บ้านได้ แต่ก็ต้องระวังเรื่องการใช้เสียงเนื่องจากจะรบกวนผู้อยู่อาศัยได้ โดยเฉพาะในช่วงค่ำควรงดใช้เสียงเลย
ขอสารภาพว่าพวกเราไม่ได้เดินสำรวจหมู่บ้านนี้มากนักเพราะมันเริ่มหนาวอีกแล้ว 🥶 ขอไปนั่งร้านกาแฟหาไออุ่นซักหน่อยดีกว่า
เดินออกจากหมู่บ้านมานิดเดียวจะเจอกับร้าน 1in1jan ที่โคดเก๋เพราะมีความผสมผสานระหว่างความโมเดิร์นและความโบราณแบบฮันอก
ร้านมีทั้งหมด 5 ชั้น โดยชั้น 1 กับชั้น 2 จะเป็นคาเฟ่ ชั้น 3 เป็นส่วนที่ขายเฟอร์นิเจอร์และมีที่ให้นั่งชมวิวได้ด้วย ส่วนชั้น 4 และชั้น 5 จะเป็นร้านอาหารและร้านขนม
เรามานั่งกันที่ชั้น 5 เลย โชคดีมีคนลุกพอดีเลยได้โต๊ะนั่ง วิวดีมากเห็นทั้งภูเขาพุคันซานและหมู่บ้านอึนพยองฮันอก
ที่นั่งตรงนี้ต้องนั่งกับพื้นและต้องถอดรองเท้าด้วยเลยทุลักทุเลนิดหน่อย เพราะเราแต่งกันมาจนตัวพองเลยกว่าจะถอดเสื้อเสร็จ แถมไม่มีที่ให้แขวนด้วยเลยต้องเอามาวางกองๆ กัน แล้วเรามากัน 5 คนเลยทำให้ที่นั่งดูคับแคบไปเลย
การสั่งกาแฟที่นี่เค้าบังคับให้ต้องสั่งเป็น set นะ คือต้องเลือกเครื่องดื่ม 1 อย่างและขนมอีก 1 อย่าง จะสั่งเครื่องดื่มอย่างเดียวไม่ได้ เลยทำให้ราคาอาหารของที่นี่จะดูแพงกว่าร้านกาแฟทั่วไป แต่ขนมเค้าก็น่าตาน่ากินมากๆ มีทั้งขนมเกาหลีพื้นเมืองและขนมเค้ก
ได้มาประมาณนี้ กาแฟหอมอีกเช่นเคย ขนมของเกาหลีก็อร่อยไม่หวานมาก กินกับกาแฟเข้ากันได้ดี
ชมวิวจนอิ่มและหายหนาวแล้วก็ออกไปเดินที่ Eunpyeong History Hanok Museum ที่อยู่ข้างๆ กันต่อ
ปรากฎว่าเค้าปิดละจ้า 😅 มาช้าไปนิดเดียว (แต่ถึงมาทันก็คงเดินได้นิดเดียว) นี่แหละไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน ไม่งั้นคงมาพิพิธภัณฑ์ก่อนแล้วค่อยไป 1in1jan
ป่ะ กลับเข้าเมืองไปกินมื้อเย็นดีฝร่า
ระหว่างลงจากรถเมล์เพื่อจะต่อรถไฟใต้ดินไปร้านอาหาร เจอตลาดอะไรไม่รู้สวยดี ขายอาหารเยอะมาก โห..กลิ่นนี่ยั่วยวนกระเพาะเหลือเกิน
ถึงร้าน Mongtan แล้ว ตั้งใจมาร้านนี้มากเพราะเค้าดังเรื่องซี่โครงเนื้อย่าง
แต่เค้าไม่ให้เราเข้าอ่ะ เสียใจมาก 😭 พนง. บอกต้องจองมาก่อนตอนนี้เต็มแล้ว ไม่รับ walk-in ด้วยอดเลย อันนี้ก็ไม่รู้จะโทษใคร เพราะตอนแรกเราให้ host ที่บ้านช่วยจองให้ แต่ชีบอกร้านนี้เคยโทรไปจองแล้วเค้าไม่รับจอง บอกว่าต้องไปยืนเข้าคิวเท่านั้น แต่พอไปถึงร้านบอกอีกอย่าง ก็เลยเซ็งสุดๆ ตัดสินใจนั่งรถกลับไปแถวบ้าน กินไก่ทอดแทนก็ได้
กินเสร็จก็ไปเดินเล่นก่อนกลับบ้าน ฮงแดนี่น่ากลัวจริงๆ เดินเวลาไหนก็ต้องเสียตังค์ตลอด ของช็อปเยอะจริงๆ
ลาไปกับภาพบรรยากาศคริสต์มาสสวยๆ กันค่ะ
เช้าวันที่ 4 ได้เวลากลับไทยกันละจ้า เช้านี้เราไปกินมื้อเช้าที่ร้านกาแฟอีกร้านที่อยู่ใกล้บ้าน เป็นร้านที่น่ารักมากอีกร้าน เดินผ่านมาหลายวันละ
ถึงแล้ว Koyo Bake Shop
ร้านน่ารักดี เมนูมีทั้งขนมปังทั้งเค้ก
เราสั่งมาลองชิมหลายอย่างเลย ทั้งขนมและเค้กรสชาติอร่อยดีค่ะ
ออกจากร้านก็ไปเดินเล่นที่ฮงแดอีกรอบ เพิ่งเห็นว่าแถวนี้มี Photo Booth หลายร้านเลย ไปถ่ายเล่นๆ เป็นที่ระลึกกันดีกว่า
สนุกมากเลย เค้ามีพร็อพให้ใส่เพียบ เล่นกันก็ไม่ค่อยจะเป็น วิ่งเข้าวิ่งออกไปหยิบพร็อพกันแทบไม่ทัน ดีว่าในร้านไม่มีลูกค้าคนอื่นเลย
มื้อเที่ยงเราเข้าร้านนี้กันค่ะ เป็นร้านแนวๆ อาหารเกาหลีจานด่วน
ร้านนี้ก็ไม่มี พนง. เสริฟนะ เราต้องเลือกอาหารและจ่ายเงินที่ตู้ก่อน จากนั้นเอาตั๋วที่ได้มาส่งให้ พนง. พอทำอาหารเสร็จเค้าก็จะเรียกให้ไปรับที่เคาน์เตอร์ เป็นแบบ self service ค่ะ
โอ้ว อาหารอร่อยอยู่นะ ไม่รู้ร้านนี้เป็นร้านของคุณแบคจงวอน เชฟชื่อดังของเกาหลีหรือป่าว เห็นมีรูปเค้าอยู่หน้าร้านด้วย
กินเสร็จก็เดินกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวไปสนามบินกันละค่ะ
ระหว่างนั่งรอรถมารับไปสนามบินที่ร้านคุณ Lee เพื่อนบ้าน ก็ตบกาแฟกันให้ตาค้างไปอีกคนละแก้ว แล้วก็เจอเรื่อง surprise เมื่อคุณ Lee เจ้าของร้านถามว่าเรายังอยากได้เมล็ดกาแฟมั้ย เพราะตั้งแต่วันแรกที่มาร้านแก เราถามไปว่าแกขายเมล็ดกาแฟด้วยมั้ย เราอยากซื้อเพราะมันหอมมาก แกบอกว่าไม่ได้ขายสั่งมาใช้ที่ร้านอย่างเดียว มาวันนี้แกไปเอากล่องมาตักเมล็ดกาแฟให้เราฟรีกระปุกนึงเลย น่ารักโฮกซึ้งในน้ำใจสุดๆ 🥹
นี่ก็เป็นการมาเยือนเกาหลีอีกครั้งในปี 2023 ที่สนุกและประทับใจมาก พวกเราได้พักใน Airbnb ได้บรรยากาศใหม่ๆ ไปเที่ยวที่ใหม่ๆ ชิมอาหารร้านใหม่ๆ และเจอคนเกาหลีที่น่ารักมากๆ ทำให้ทริปเกาหลีครั้งนี้ประทับใจมากๆ เลย
สำหรับ Blog นี้ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ แล้วพบกันใหม่ในการเดินทางครั้งต่อไปค่ะ 😊
